วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ความมหัศจรรย์ของภูเขา

หน้าที่ของภูเขา
The Function of Mountains
อัลกุรอานได้กล่าวไว้เกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านธรณีวิทยาที่สำคัญของภูเขาดังซูเราะฮ์อัลอัมบิยาอ :

“และเราได้ทำให้เทือกเขามั่นคงในแผ่นดิน เพื่อมันจะมิได้เคลื่อนไหวภายใต้พวกเขา…”
(อัลกุรอาน 21:31)

ภูเขามีรากฝังลึกลงไปในพื้นผิวดิน (Earth Press and Siever , p 413 )

ภาพตัดของภูเขาแสดงให้เห็นถึงลักษณะเหมือนหมุดฝังลึกลงไปในพื้นดิน (Anatomy of the Earth , Cailleux , p 220)

ภาพแสดงว่าภูเขามีลักษณะเหมือนหมุด จากการที่รากฝังลึกลงไปในพื้นดิน ( Earth Science ,Tarbuck and Lutgens , p 158 )


ดังที่ปรากฏในอายะฮ์ข้างต้นว่า ภูเขามีหน้าที่ในการป้องกันการสั่นไหวของแผ่นดิน
ความรู้ทางธรณีวิทยาที่เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่มีผู้ใดรู้ในขณะที่อัลกุรอานประทานลงมา
จากการค้นพบว่าภูเขาเกิดจากการเคลื่อนที่เข้าปะทะกันของแผ่นทวีปขนาดใหญ่ที่กลายเป็นผิวโลก แผ่นที่แข็งกว่าจะแทรกเข้าไปใต้อีกแผ่นหนึ่ง ชั้นที่อยู่ข้างบนจะมีการโค้งงอเกิดเป็นภูเขาขึ้น ชั้นที่อยู่ข้างใต้จะเป็นส่วนที่ลึกลงไปด้านล่าง นั่นหมายถึง จริงๆแล้วภูเขาที่เราเห็นว่าสูงตระหง่านเสียดฟ้านั้น มีส่วนที่ลึกลงไปใต้ดินพอๆกับส่วนที่เราเห็นบนผืนโลก
ข้อความทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายโครงสร้างของภูเขาไว้ดังนี้ :

ลักษณะที่ภูเขาฝังลึกลงไปในพื้นดินและยื่นขึ้นเหนือพื้นโลก ทำให้มีคุณสมบัติเหมือนหมุดที่ยึดผิวโลกเข้าไว้ด้วยกัน เปลือกโลกประกอบด้วยส่วนที่ยังคงมีการเคลื่อนตัวอย่างสม่ำเสมอ การยึดติดของภูเขานี้ช่วยป้องกันการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงของเปลือกโลก ซึ่งมีโครงสร้างที่เคลื่อนไหวได้



“แผ่นทวีปส่วนที่หนากว่าได้แก่ส่วนที่เป็นเทือกเขานั้น เปลือกโลกชั้นนอกฝังลึกลงไปในเปลือกโลกชั้นใน” 4
อัลกุรอานได้เปรียบเทียบหน้าที่ของภูเขาเหมือนกับตะปูหมุด ดังซูเราะฮ์อันนะบะอ :

“เรามิได้ทำให้แผ่นดินเป็นพื้นราบดอกหรือ และมิได้ให้เทือกเขาเป็นหลักตรึงไว้ดอกหรือ”
(อัลกุรอาน 78:6–7)

กล่าวอีกอย่างหนึ่งได้ว่าภูเขาจะยึดชั้นหินใต้เปลือกโลกเข้าไว้ด้วยกันโดยมีจุดยึดทั้งด้านบนและด้านล่างของผิวโลก ทำให้เปลือกโลกไม่ไหวเลื่อน อาจเปรียบได้ว่าภูเขาเหมือนตะปูที่ตรึงแผ่นไม้เข้าไว้ด้วยกัน
ลักษณะการยึดของภูเขาในทางวิชาการเรียกว่า “ดุลเสมอภาคของเปลือกโลก” (Isostasy) ซึ่งมีความหมายว่า :
“เปลือกโลกรักษาภาวะสมดุลได้ ด้วยการเคลื่อนไหวเป็นครั้งคราวของหินใต้เปลือกโลก” 5
หน้าที่สำคัญของภูเขาที่ค้นพบจากความรู้ด้านธรณีวิทยา ซึ่งเป็นตัวอย่างการสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า มีกล่าวไว้ในอัลกุรอานมาก่อนหน้าแล้ว ดังซูเราะฮ์อัลอัมบิยาอ.

“ และเราได้ทำให้เทือกเขามั่นคงในแผ่นดิน เพื่อมันจะมิได้หวั่นไหวไปกับพวกเขา
และเราได้ทำให้หุบเขาเป็นทางกว้างในแผ่นดินนั้น เพื่อว่าพวกเขาได้ใช้เป็นทางเดินอย่างถูกต้อง ”
(อัลกุรอาน 21:31)

การเคลื่อนไหวของภูเขา
The Movement of Mountains
จากอายะฮ์หนึ่งในซูเราะฮ์ อันนัม ทำให้เราได้รู้ว่า ภูเขาที่เราเห็นเหมือนว่ามิได้เคลื่อนไหวใดๆ แท้จริงแล้ว ภูเขานั้นเคลื่อนไหวอยู่เสมอ

“และเจ้าจะเห็นขุนเขาทั้งหลาย เจ้าจะคิดว่ามันติดแน่นอยู่กับที่ แต่มันล่องลอยไป
เช่นการล่องลอยของเมฆ นั่นคือการงานของอัลลอฮ์ซึ่งพระองค์ผู้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อย
แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงตระหนักในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ”
(อัลกุรอาน 27:88)

การเคลื่อนไหวของภูเขาเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกชั้นนอกที่อยู่เหนือเปลือกโลกชั้นในที่หนาแน่นกว่า
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันที่ชื่อ อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) เสนอสมมุติฐานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ว่า ทวีปต่างๆนั้น แต่เดิมเป็นผืนเดียวกัน ต่อมาได้เคลื่อนตัวแยกออกจากกัน นักธรณีวิทยาเพิ่งเข้าใจและยอมรับทฤษฎีนี้ในทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นเวลากว่า 50 ปี หลังจากที่เวเกเนอร์เสียชีวิตไปแล้ว เวเกเนอร์อธิบายไว้ในบทความที่ตีพิมพ์ในปี 1915 ว่า เมื่อประมาณ 500 ล้านปีก่อน พื้นโลกปัจจุบันซึ่งเป็นทวีปต่างๆ ยังเป็นผืนเดียวกัน อยู่บริเวณขั้วโลกใต้ เรียกว่า ปันเจีย (Pangaea)
ประมาณ 180 ล้านปีก่อน ปันเจียแยกออกเป็นสองส่วนและ เคลื่อนออกจากกัน ส่วนหนึ่งเรียกว่า กอนด์วานา (Gondwana) ประกอบด้วยทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย แอนตาร์กติกา และอินเดีย และอีกส่วนหนึ่งเรียกว่า ลอเรเซีย (Laurasia) ประกอบด้วยทวีปยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชีย (ยกเว้นอินเดีย) อีก 150 ล้านปีต่อมา กอนด์วานาและลอเรเซียต่างก็แยกออกเป็นส่วนย่อยๆ
ทวีปต่างๆที่เกิดจากการแยกของปันเจียนั้น ปัจจุบันยังคงเคลื่อนตัวอยู่หลายเซ็นติเมตรต่อปีซึ่งทำให้สัดส่วนของผืนดินกับผืนน้ำบนโลกนี้เปลี่ยนไปด้วย
ต้นศตวรรษที่ 20 มีการศึกษาทางธรณีวิทยาและพบว่าการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกเป็นดังนี้

ภาพทางด้านซ้ายแสดงตำแหน่งของทวีปในอดีต ถ้าเราคาดเดาเอาว่าการเคลื่อนตัวของทวีปนั้น จะยังคงดำเนินไปในลักษณะนี้ ในอีกล้านปีข้างหน้า ตำแหน่งของมันจะอยู่ในลักษณะดังในภาพทางด้านขวา

เปลือกโลกชั้นนอกกับส่วนบนสุดของเปลือกโลกชั้นใน ซึ่งหนาประมาณ 100 กิโลเมตร ถูกแบ่งออกเป็นส่วนเรียกว่า แผ่นทวีป (Plate) ประกอบด้วย 6 แผ่นทวีปใหญ่ และหลายแผ่นทวีปเล็ก ตามทฤษฎีการแปรโครงสร้าง แผ่นทวีปเหล่านี้จะเคลื่อนตัวจนทำให้ทวีปและพื้นมหาสมุทรเคลื่อนที่ไปด้วย การเคลื่อนตัวของทวีปวัดได้ประมาณ 1-5 เซนติเมตรต่อปี การเคลื่อนตัวของแผ่นทวีปนั้นทำให้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ เช่น มหาสมุทร แอตแลนติค จะกว้างออกเล็กน้อยในแต่ละปี 6
ประเด็นสำคัญมากที่จะกล่าวถึงในที่นี้ก็คือ อัลลอฮ์ได้ตรัสเรื่องการเคลื่อนไหวของภูเขานี้ไว้ในอายะฮ์กุรอานแล้ว ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้ใช้คำว่า การเลื่อนของทวีป (Continental Drift) เพื่อแสดงถึงการเคลื่อนไหวเหล่านั้น 7
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่านี่คือ ความมหัศจรรย์ประการหนึ่งของอัลกุรอาน ที่ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่วิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น