วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่

อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่
9:40 PM, 29/11/2009 .. 0 comments .. Link
อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่
โดย shabab kolbunsalim
ด้วยพระนามของอัลลอฮ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตา
اللَّهُ أَكْبَرُ اللَّهُ أَكْبَرُ ، لَا إلَهَ إلَّا اللَّهُ ، وَاَللَّهُ أَكْبَرُ اللَّهُ أَكْبَرُ وَلِلَّهِ الْحَمْدُ
อัลลอฮฺทรงเกรียงไกร อัลลอฮฺทรงเกรียงไกร,
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺทรงเกรียงไกร, อัลลอฮฺทรงเกรียงไกร การสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
ผ่านไปอีกแล้วกับวัน(อีด)ที่บ่าวผู้ศรัทธาทั้งหลาย ได้ทำการแซ่ซ้อง สดุดี สรรเสริญในความยิ่งใหญ่ของพระองค์อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลา ในการสรรค์สร้างทุกสิ่งทุกอย่างในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน ในการบันดาลน้ำฝนและการประทานปัจจัยยังชีพต่างๆ รวมไปถึงการประทานลมหายใจเข้าออกของมนุษยชาติทั้งหลายได้ใช้ชีวิตไปอย่างมีจุดมุ่งหมายของการดำเนินชีวิตไปในแต่ละวัน
คงจะเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม หากจะมีบ่าวผู้ศรัทธาสักคนหนึ่งจะแซ่ซ้องสดุดี สรรเสริญ เชิดชูพระองค์ท่านในทุกช่วงเวลาของวันอีด หรือทุกช่วงเวลาอื่นๆตลอดการดำเนินชีวิตของเขา เขาจะนำสิ่งอื่นใดมาเป็นที่รัก เชิดชู สรรเสริญ เยินยอปอปั้น มาเทียบเคียงหรือเทียบเท่ากับพระองค์ท่านด้วยได้แน่ เว้นแต่เขาผู้นั้นจะเป็นผู้ที่ยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของการศรัทธามั่นถือมั่นว่า พระองค์อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาองค์เดียวเท่านั้น คือ ผู้ที่สมควรที่จะได้รับสรรเสริญ เชิดชูในความยิ่งใหญ่ ของการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินทั้งหลายอย่างแท้จริง
พี่น้องครับ อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาทรงตรัสไว้ในซูเราะห์ Al-Baqarah อายะฮที่ 256 ซึ่งมีใจความว่า “…….ดังนั้น ผู้ใดปฎิเสธศรัทธาต่ออัฏ-ฏอฆูตและศรัทธาต่ออัลลอฮฺแล้ว แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว โดยไม่มีการขาดใดๆเกิดขึ้นแก่มัน และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้”
หลายคนในวันนี้!!มักจะคิดเพียงแค่ว่า ฉันได้กล่าวกาลีเมาะชะฮาดะหแล้ว ฉันได้กล่าวสรรเสริญพระองค์ท่านแล้ว นั่นก็ถือว่า ฉันก็เป็นมุสลิมที่ศรัทธาในอัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาแล้วหล่ะ แต่เราเคยรู้ไหมครับว่า ข้อพิสูจน์ของความมั่นคงในการศรัทธาต่ออัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาอย่างแท้จริงนั้น คือการที่เค้าเหล่านั้นจำต้องปฏิเสธ อัฏ-ฏอฆูต (**) ทั้งหลาย มิใช่การยอมรับ และมิใช่การนิ่งเฉยกับอัฏ-ฏอฆูต ที่มีส่วนของการที่ทำให้พี่น้องมุสลิมนั้นนิ่งเฉย และละทิ้งในสิ่งที่อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาทรงสั่งใช้และสั่งห้ามต่างๆและเราจะต้องปฏิเสธในสิ่งเหล่านี้ที่มีอยู่ในหัวใจของเราให้หมดสิ้นไป
ในบางครั้งการที่เรานำสิ่งอื่นหรือบุคคลใกล้ตัวมาเป็นที่รัก และสรรเสริญ เยินยอ เชิดชูและทำความรู้จักมากไปกว่าการรู้จักพระองค์ที่แท้จริงแล้วนั้น นั่นก็เป็นความบกพร่องแล้วซึ่งอีหม่านของเขาในฐะนะที่เค้านั้นศรัทธามั่นถือมั่นว่าอัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้น คือ พระเจ้าที่แท้จริง
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดินล้วนแล้วแต่เป็นสรรพสิ่งที่มาจากการสรรค์สร้างพระองค์ท่านทั้งสิ้น แต่ไฉนเลยในวันนี้ ในความเข้มข้นของการแสดงออกถึงความรัก ความภักดี และการกล่าวถ้อยคำใดๆที่ออกมานั้น เรากลับนำสิ่งอื่นๆมาเทียบเท่ากับพระองค์หรือมากไปกว่าพระองค์อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาได้หล่ะครับ
นาอูซูบิลลาฮ....
วันนี้!!ทุกคนมักจะบอกว่า ฉันรักอัลลอฮ อัลลอฮนั้นยิ่งใหญ่นัก อัลลอฮนั้นทรงเกรียงไกรนัก และอัลลอฮนั้นคือผู้ที่ฉันขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ แต่ในช่วงเวลาของชีวิต หนึ่ง เรากลับนำสิ่งรอบข้างมาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราหรือ เป็นสิ่งที่เรานั้นต้องเชิดชูหรือ หรือเพราะว่าเค้านั้นดีกับเรา หรือเพราะว่าเค้านั้นช่วยเหลือเรา !!
หรือบางครั้งในยามที่เราเสียใจ ทุกข์ใจ เศร้าใจ หรือต้องประสบปัญหาต่างๆในชีวิตนั้น เรามักจะนึกถึงเพื่อน คนรัก แฟน หรือบุคคลอื่นๆที่เรานั้นมักจะนึกขึ้นได้ก่อนมาเป็นที่ปรึกษาเป็นอันดับแรก โดยไม่นึกถึงก่อนว่า ฉันจะต้องยกมือขอดุอาร์จากอัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลาก่อนนะ แล้วพระองค์ก็จะทรงความช่วยเหลือฉันเองหล่ะ !!เราไม่เคยเลยใช่ไหมครับ ซึ่งเมื่อหัวใจและการกระทำของเราเป็นดั่งนี้แล้ว เราก็ควรและนำมาพิจารณาได้แล้วหล่ะครับว่า
จริงหรือ!!ที่ฉันรักอัลลอฮที่สุด จริงหรือ!!ที่ฉันกล่าวว่าอัลลอฮนั้นยิ่งใหญ่นัก จริงหรือ!!ว่าอัลลอฮนั้นคือผู้ช่วยเหลือฉันเสมอ
จริงหรือครับ???
หรือในวันนี้!!ฉันก็รักอัลลอฮ ฉันก็รักรอซูล ฉันก็รักพ่อ รักแม่ ลูกๆและเพื่อนๆๆ แต่เราเคยหันมาตรวจสอบและชั่งน้ำหนักของความรักที่เรามีไหมครับว่า ความรักที่เรามีให้นั้น ใครคือคนที่เรารักมากกว่ากัน ใครคือคนที่สมควรรักมากกว่ากัน และใครหรือครับที่เราควรนำมาสรรเสริญ เชิดชู เหนือกว่าสิ่งอื่นใด เพียงผู้เดียว ใครกันหรือครับ หากไม่ใช่ พระองค์อัลลอฮ ซุบฮานาฮุวา ตะอาลา มีรายงานจากอนัส จากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “สามประการ ที่ผู้ใดมีสามประการนี้อยู่ในตัว, เขาได้พบกับความหวานชื่นของการศรัทธา คือ
(1)ผู้ใดที่ให้อัลลอฮ์และรอซูลเป็นที่รักยิ่งของเขามากกว่าผู้อื่นทั้งหมด (2)การที่เขารักใครคนหนึ่งก็มิได้มิได้มีจุดประสงค์เพื่อสิ่งใดนอกจากเพื่ออัลลอฮ์ (3) ในการที่เขารังเกียจจะคืนกลับสู่การปฏิเสธการศรัทธา หลังจากที่อัลลอฮ์ได้ให้เขาหลุดพ้นสภาพนั้นมาแล้ว เหมือนดังที่เขารังเกียจที่จะถูกโยนลงนรก”บัโดยมุสลิม/หมวดที่1/บทที่17/ฮะดีษเลขที่ 0067
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเราเอง พี่น้องเอง ได้รู้แล้วว่า การที่เราศรัทธาต่ออัลลอฮนั้น มิได้หมายรวมว่า เราไม่ต้องปฏิเสธต่อฏอฆูตเลย แม้ในหัวใจหรือคำพูดก็ตาม เราก็ต้องมาดูอีกว่า ความรักแบบไหนที่จะทำให้อีหม่านของเรานั้นสมบูรณ์ ความรักแบบไหนที่จะทำให้อีหม่านเรานั้นมั่นคง และความรักแบบไหนหรือ??ที่พระองค์อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอาลาทรงให้ท่านนบีศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมมาการันตีว่านั่นแหละ คือ ผู้ที่ได้สัมผัสแล้วซึ่งความหวานชื่นของการศรัทธา
เราก็คงต้องมาสอดส่องถึงพฤติกรรของคนรอบข้าง คนในครอบครัว ลูกหลานของเราหรือคนที่เรารู้จักแล้วหล่ะนะว่า ณ เวลานี้ ตอนนี้ เขามีความเชื่ออย่างที่เราเข้าใจ ตามที่อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลา ตรัสไหม ตามที่ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้หรือเปล่า เราคงต้องช่วยๆกันแล้วนะครับ..อินชาอัลลอฮ
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته
---------------------------------------------
**ท่านอิบนุกะษีรกล่าวว่า” และคำพูดที่ถูกต้องในทัศนะของข้าพเจ้า ในคำว่า ฏอฆูต คือ ทุกผู้ที่ละเมิดต่ออัลลอฮ แล้วเขาถูกเคารพภักดี (ถูกผู้อื่นอิบาดะฮต่อเขา)อื่นจากพระองค์(อื่นจากอัลลอฮ) บางที ก็ด้วยการบังคับจากเขาต่อผู้ที่อิบาดะฮต่อเขา และบางทีก็ด้วยการภักดีที่มีต่อเขา จากผู้ที่อิบาดะฮเขา และสิ่งที่ถูกเคารพภักดีดังกล่าวนั้น อาจจะเป็น มนุษย์ เป็นชัยฏอน รูปเจว็ด หรือ รูปปั้น หรือ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม-ดูตัฟสีรอิบนิกะษีรอรรถาธิบายอายะฮที่256ซูเราะฮอัลบะเกาะเราะฮ وقال الإمامعبدالرحمن السعدي : ( كل حكم بغير شرع الله فهو : طاغوت . ) اهـ
تيسيرالكريم الرحمن 1/ 363
โฉมใหม่แล้วบางส่วนวันนี้ที่ http://shabab00.wordpress.com/http://mureed.com/article/Shabab%5EArticle.htmlshabab_000@hotmail.com---------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น